วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

Effect Chain

คำถามที่ผมพบบ่อยมากๆ ในการไปเยือนฟอรั่มเกี่ยวกับเครื่องดนตรีไม่ว่าจะไปเป็นเวปในบ้านเรา หรือแม้กระทั่งเวปเมืองนอก ก็มักจะเจอคำถามที่ว่า "เรียงเอฟเฟคต์กันอย่างไร?" หรือ "ควรจะเอาเอฟเฟคต์ตัวไหนไว้ก่อนตัวไหน?" ปัญหาเหล่านี้มันเป็นปัญหาโลกแตกของคนที่เริ่มๆ เล่นก้อน (หรือบางกรณีเพิ่งย้ายค่ายจากมัลติเอฟเฟคต์ มาเล่นเอฟเฟคต์ก้อน)

ต้องขอบอกก่อนว่าตามประสบการณ์ของผมที่เล่นก้อนมา ผมไม่คิดว่า เราจะมีสูตรตายตัวในการจัดเรียง FX แบบ 100% บางครั้งความสนุกของการจัดบอร์ด หรือเรียง FX มันก็อยู่ที่การทดลอง ว่าถ้าเอาตัวนั้นไว้หน้าตัวนี้ หรือตัวนี้ไว้ก่อนตัวนั้น มันจะมีผลออกมาอย่างไร ถ้าเราชอบผลที่ออกมา แสดงว่าการจัดเรียงก็นับว่าถูกต้อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจัดเรียง FX Chain นี้ ก็มีพิมพ์นิยมอยู่ครับ นอกเหนือจากที่ว่าไว้ ก็เชิญชวนให้ไปลองสลับสับเปลี่ยนทดลองกันเองเพื่อความสนุกสนานละกันนะครับ

     กลุ่ม Filter/EQ/Tone: กลุ่มนี้เป็น FX กลุ่มที่มีผลกับย่านเสียงและความสมดุลย์ของเสียงต่างๆ เช่นพวก Wah Wah/Auto Wah/Envelope Filter เป็นต้น

     กลุ่ม Dynamic Controller: กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ควบคุมเรื่องของความดังสุดและเบาสุด ที่ชาวกีตาร์เราใช้กันบ่อยๆ จะคุ้นเคยกับ Compressor หรือ Limiter (อันนี้ใช้ในการบันทึกเสียงเยอะกว่า)

     กลุ่ม Distortion: อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ชาวกีตาร์คุ้นเคยกันมากที่สุด เพราะมักจะคุยกันอยู่แต่เรื่องแตกมาก แตกน้อย แตกหน้าตู้ และสารพัดจะแตกกัน กลุ่ม Distortion นี้ เป็น FX ที่รวมๆ แล้วก็คือก้อนเสียงแตกที่ไม่ว่าจะเป็น Distortion/Overdrive/Fuzz และรวมไปถึง Overdriven ในแอมป์พลิฟายด์ด้วยนะครับ

     กลุ่ม Modulation: เป็นกลุ่ม FX ที่สร้างเสียงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ อาจจะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับการเล่นกีตาร์ FX ในกลุ่มนี้ก็ได้แก่พวก Phaser/Chorus/Vibrato

     กลุ่ม Intelligence Processor: กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีผลกับระดับเสียง และอาจจะสร้างเสียงคู่ขนานไปกับเสียงหลัก เช่นพวก Pitch Shifter/Harmonizer/Octavers

     กลุ่ม Volume: ชัดเจนอยู่แล้วว่าเล่นกับระดับเสียงดังเบาของกีตาร์ ก็เช่นพวก Foot Volume

     กลุ่ม Time Based Effect: กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างจะจำเป็นและน่าจะเป็นกลุ่มที่ถูกใช้งานบ่อยรองจาก Distortion เพราะเป็นกลุ่มที่ช่วยเรื่องการจำลองเสียงสะท้อน เช่น Delay หรือ Reverb

     กลุ่ม Noise Gate: เป็นกลุ่มสุดท้ายที่นิยมเอาไว้ท้ายสุดของ Chain (แต่บางคนก็ชอบเอาไว้หน้าสุด อย่างที่บอกไว้แต่แรกแหละครับ ว่ามันไม่มีกฏตายตัว) กลุ่่มนี้เป็นกลุ่ม FX ที่ช่วยตัดเสียงรบกวน เสียง Hum เสียงจี่ที่อาจจะเกิดจากปิ๊กอัพแบบซิงเกิ้ลคอยล์ หรือ จำนวน Distortion ที่มากเกินไป FX Noise Gate นี้จะมีผลตอน "หยุด" เล่นเท่านั้นนะครับ เช่นพวก Decimator/Noisegate



    เมื่อว่ากันตามกลุ่ม FX ที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วนั้น โดยปรกติแล้ว Effect Chain ก็จะมีการจัดเรียงดังนี้:

Filter --> Dynamics --> Distortion --> Modulation --> Pitch FX --> Volume --> Time Based --> Gate

    ย้ำกันอีกสักทีครับ ว่าการจัดเรียงที่ผมเอามาเล่าให้ฟังนี้ เป็นเพียงแค่ "พิมพ์นิยม" ที่เค้านิยมกัน ส่วนจะถูกรสนิยม หรือถูกใจ ถูกหูคุณๆ หรือไม่นั้น ผมแนะนำให้ลองทดลองสลับไปสลับมากันเอาเองจนกว่าจะผสมเจอเสียงในแบบที่คุณชอบกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังอยากจะลองจัดบอร์ดนะครับ



 

6 ความคิดเห็น:

  1. รูปแรกคุ้นมากกกกครับ อิอิ
    เดี๋ยวต้องไปอัพเดทหน่อยแล้วครับ แหะๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หุ หุ หุ ต้องมีปรับเปลี่ยนอะไรบ้างแล้วมั๊งครับ

      ลบ
    2. เยอะเลยครับพี่ แหะๆ จริงๆแล้วถ้าเทียบกับบอร์ดในรูปตอนนี้ไม่มีตัวเดิมเหลืออยู่เลยครับพี่เอ 55555

      Filter พี่เอแนะนำอะไรครับ?

      ลบ
    3. Tone Factor: Analog Filter / Mad Pro: Snowwhite Auto Wah ครับ :)

      ลบ