วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Fender BNS 50th


หากพูดถึงกีตาร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาเป็นเวลานานเป็นสิบๆ ปี เราๆ ท่านๆ คงจะนึกถึงกีตาร์แบรนด์ยักษ์ใหญ่สองแบรนด์คือ Fender และ Gibson ในขณะที่ Gibson เป็นแบรนด์ที่บ้านเรามีการเปลี่ยนมือผู้จัดจำหน่ายมาแล้ว Fender Guitars เป็นแบรนด์เดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนมือเลยนับตั้งแต่กีตาร์ Fender Stratocaster ตัวแรกเข้ามาสู่สยามประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2505 (หรือ 1962) โดยร้านค้า (ของเก่าในขณะนั้น) คือ เบ๊ เงี๊ยบ เส็ง ที่เรารู้จักกันดี มาจนถึงปีที่แล้ว ก็ครบรอบ 50 ปี ที่ทาง Fender และ เบ๊ เงี๊ยบ เส็ง เป็นพาร์ทเนอร์กันมาแล้วนะครับ นับเเป็นเวลาที่ยาวนานมากสำหรับการที่องค์กรณ์สององค์กรณ์สามารถทำธุรกิจการค้าร่วมกันด้วยดี


และในการครบรอบ 50 ปีนี้เองครับ ทาง เบ๊ เงี๊ยบ เส็ง (และ Music Concept) ก็ได้ร่วมกันผลิตกีตาร์ Fender Stratocaster ขึ้นมารุ่นหนึ่ง เรียกว่า Fender Stratocaster BNS 50th Anniversary อยู่ในซีรี่ส์ที่เรียกว่า Dealer Select ที่ทาง Fender จะผลิตให้กับตัวแทนจำหน่ายที่ถูกคัดเลือกมาแล้วเท่านั้น และทาง เบ๊ เงี๊ยบ เส็ง ก็ได้ถูกเลือกให้ทำรุ่นนี้ขึ้นมา โดยผลิตออกมาจำกัดเพียง 30 ตัว โดยเป็น Jason Smith Master Built 18 ตัว และ Team Built อีก 12 ตัว


ผมมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ 1 ตัวครับ ที่ได้มาเป็นหมายเลข 14 จากจำนวน 30 ตัว เป็นกีตาร์ Fender Stratocaster BNS 50th Anniversary สี Lake Placid Blue โดยมี Spec ที่เด่นๆ ก็คือ Light Weight Alder Body / Dark Indian Rosewood Fretboard / Abby Hand-wound : Fat 50 Pickups / Custom Crocodile Skin Case และมีใบ Certificate ที่บ่งบอกความเป็นไปของรุ่นนี้อีกด้วย งาน Relic ของ Jason Smith นั้นดูเนียนตามากๆ ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยการแตก การกระเทาะดูมีเรื่องราวความเป็นไปได้ หรือดีไซน์มาก่อนว่าร่องรอยมีความเป็นมาอย่างไร จุดน่ารักอีกจุดหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในตัวนี้คือในกล่องนอกจากจะมีพวกสายสะพาย คันโยก Ash-Tray ต่างๆ แล้ว ยังมีสิ่งแปลกใหม่เรียกว่า CruzTool ซึ่งรวมเอาเครื่องมือที่จำเป็นในการดูแลกีตาร์ของคุณมาใส่ไว้ให้ด้วย ผมลองใช้ดูแล้วครับ เวิร์คมากๆ  และเรื่องของเสียงบางทีก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องพูดถึงมากนักเมื่อเปรียบกับคุณค่าในการสะสมสำหรับนักสะสม แต่ส่วนตัวผมก็ต้องทำการทดสอบเสียงกันก่อน ด้วยเครื่องดนตรีจะมาจะน้อยก็ต้องเปล่งเสียงดีๆ ให้เราฟังกันใช่ไหมครับ



ผมทดสอบ Fender BNS 50th ตัวนี้ด้วย Komet : Songwriter 30 ผ่าน Tophat 2x12 Speaker (Alnico Blue ) พบว่าเสียงที่ได้อ้วนหนากลมใหญ่ แต่ว่านุ่มนวล ซัสเทนยาวฟังเพราะพริ้งดี่ ได้เสียงในแบบ Stratocaster ดีๆ เต็มเปี่ยม ด้วยปิ๊กอัพเป็น FAT 50 ผมรู้สึกว่า Output ค่อนข้างกระเดียดไปทางแรงนิดหน่อย ทำให้เล่นได้ครอบคลุมดีไม่ว่าคุณจะ Jazz/Blues/Rock ก็สามารถลุยได้ ง ผมอาจจะรู้สึกว่าคอใหญ่ไปนิดหน่อย ด้วยความที่ถนัด Modern C Shape มาก่อน แต่ตัวนี้มาเป็น 60s Oval C ทำให้ช่วงคอมันอวบไปสักนิด แต่พอจะ adjust มือตามได้ไม่ยากครับ คนที่มีกีตาร์รุ่นนี้อยู่ในครอบครองก็ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่โชคดีที่ได้กีตาร์ที่เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีบ้านเรา และที่มากับประวัติศาสตร์ก็คือกีตาร์ระดับ Master Builder (Jason Smith) ที่เป็นกีตาร์คุณภาพสูงสุดเท่าที่เราจะได้รับจาก Fender แล้วครับ








วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Komet : Songwriter 30

จะว่าไปแล้ว ผมยังนึกเกริ่นถึงบทความนี้ยังไม่ถูก เนื่องจากตื่นเต้นมากๆ ที่จะมีโอกาสได้สัมผัสตัวเป็นๆ กับแอมป์พลิฟายด์ที่ผมเชื่อเหลือเกินว่าติดอันดับ 1 ใน 5 ของแอมป์ที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเราพูดถึงแอมป์พลิฟายด์ที่เรียกได้ว่าดีที่สุด ดังที่สุด ในกลุ่มที่เรียกว่า Boutique Amps แล้วหล่ะก็ 2 แบรนด์ที่ยังไม่มีใครทาบรัศมีได้ ก็เห็นจะเป็น Dumble Amplifiers ซึ่งถ้าคุณๆ ไม่ได้เป็นศิลปินใหญ่ หรือไม่ได้ร่ำรวยเงินทองแล้วหล่ะก็ ยากถึงยากที่สุดที่จะมีโอกาสได้ครอบครอง (นึกถึงว่าคนที่มี Dumble ใช้งานก็จะเป็นแนวๆ Carlos Santana, Robben Ford หรือ Larry Carlton) และอีกแบรนด์หนึ่งที่เรียกว่าไม่แพ้ Dumble ก็เห็นจะเป็นแอมป์พลิฟายด์ที่ออกแบบและผลิตโดย Ken Fischer ภายใต้ชื่อแอมป์ที่เรียกว่า Trainwreck 

Ken Fischer เป็นเอนจิเนียร์ที่พยายามออกแบบแอมป์พลิฟายด์ของเขาภายใต้คอนเซปท์ว่า "ต้องได้เสียงและสัมผัสที่รวดเร็ว ว่องไวหนักแน่น และมีฮาร์โมนิคที่ฟังดูมีมิติมากๆ และหลายชั้น ที่สำคัญต้องได้เสียงคลีนที่ไม่มีคนทาบได้" และแอมป์ Trainwreck ที่ Ken ผลิตออกมา (มีไม่กี่ร้อยตัวตั้งแต่ปี 1981) ก็ได้เสียงแบบนั้นจริงๆ ปัจจุบันคนที่ใช้แอมป์ Trainwreck จนโด่งดังก็เห็นจะเป็น Billy Gibbons จากวง ZZ Top, Brad Paisley คันทรี่สตาร์เบอร์ 1 ของอเมริกา หรือจะเป็น Mark Knolfler จาก Dire Straits เป็นต้น ถ้าจะบอกว่า Dumble Amp เป็น Holy Grail ของคน Blues/Jazz แล้วหล่ะก็ ฟันธงอย่างไม่กลัวหน้าแหกได้เลยว่า Trainwreck ก็เป็น Holy Grail ของคน Rock อย่างไม่ต้องสงสัยครับ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า Ken Fischer นั้น ปัจจุบันนี้เสียชีวิตไปแล้ว (เมื่อปี 2006) ทิ้งไว้แต่เพียงมรดกที่คงเป็น Legacy ของเขาก็คือแอมป์พลิฟายด์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดแอมป์ของโลก ปัจจุบัน Trainwreck Amp ยังคงหาซื้อได้บ้าง ในราคาระหว่าง $30,000 - $40,000 (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 890,000 บาท - 1,200,000 บาท) ต่อ 1 หัวแอมป์

เปล่าครับ ผมยังไม่โชคดีขนาดที่จะได้สัมผัสกับ Trainwreck หรอกครับ แต่ว่าแอมป์ที่กำลังจะพูดถึงนี้ ก็ทำให้ตื่นเต้นมากสุดๆ แล้วครับ ย้อนกลับไปช่วงที่ Ken เริ่มที่จะป่วย และจำเป็นต้องหยุดการผลิตแอมป์  Trainwreck นั้น เขาก็ได้พบกับคนที่ซ่อมและขายวินเทจแอมป์ที่ร้านชื่อ Riverfront Music ใน LA. โดยมี Michael Kenedy และ Holger Notzel เป็นเจ้าของ และทั้ง 3 คน รวมทั้งตัว Ken Fischer ก็ได้สร้างแอมป์ใหม่ขึ้นมาภายใต้ชื่อ Komet Amplifications ขึ้นมา นี่แหละครับเป็นพระเอกของเราในวันนี้



รุ่นที่ผมจะนำมาพูดถึงเป็นรุ่นแรก เรียกว่าน่าจะเป็นแอมป์รุ่นสุดท้ายที่ Ken Fischer ออกแบบและสร้างไว้ จากการที่เขาต้องการสร้างแอมป์ขึ้นมาเพื่อฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของตัวเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องร่างวงจรใดๆ ทั้งสิ้น Ken ได้เนรมิตหัวแอมป์รุ่น Songwriter 30 ขึ้นมาโดยให้ชื่อว่า "Inger" จากพาร์ทต่างๆ ที่เขามีอยู่ตรงหน้า โดยมีคอนเซปท์ที่ต้องการให้แอมป์รุ่นนี้มีเสียงคลีนที่สว่างสดใสและไปได้ดีกับกีตาร์ทุกแบบ (Ken ใช้ SG ที่มี P-90 ทดสอบ Inger และเขาบอกว่าบางทีเราสามารถได้ยินเสียง Fender ดีๆ ในเสียงนั้น) ทั้งหมดนี้ ก็เป็นที่มาของแอมป์ที่ผมกำลังจะทดสอบ Komet : Songwriter 30 นี่แหละครับ


Komet : Songwriter 30 เป็นเซอร์กิตเดียวกันกับ Trainwreck : Songwriter 30 และได้รับความเห็นชอบจาก Ken Fischer ให้ทาง Komet นำมาผลิต และ Songwriter 30 ก็เป็นแอมป์ที่ทาง Komet เพิ่งจะผลิตออกมาเป็นรุ่นล่าสุดต่อจาก Komet Concorde, Komet 60, Komet Constallation ที่โด่งดังนำมาก่อนแล้ว โดยใช้เพาเวอร์เป็น EL84/6BQ5 และ 12AX7 ในภาคพรีแอมป์ และแอมป์ทุกตัวรวมไปถึง Songwriter 30 นี้ ก็ผลิตในแบบ Handwired ตรงตามต้นฉบับที่ Ken ออกแบบไว้ 100% ผมทดสอบแอมป์ Komet : Songwriter โดยใช้ Fender R62 Stratocaster ต่อตรงๆ เข้ากับแอมป์ โดยไปออก Tophat 2x12 (ใช้ Celestion Alnico Blue และ Celestion G12 Herritage) ต้องสารภาพตามตรงว่าผมถึงกับตะลึงกับเสียงและสัมผัสที่ได้เล่นและฟัง สิ่งแรกที่ควรจะพูดถึงคือเรื่องของเรสปอนด์ การตอบสนองในการดีดนั้นรวดเร็วฉับไวมากกว่าแอมป์ในแบรนด์อื่นๆ ที่ผมเคยเล่น ไม่มีอาการเฉื่อยฉาใดๆ และเสียงคลีนที่ได้นั้นหนาก็จริง แต่มีความสดใสกรุ๊งกริ๊งอยู่ในโน๊ตเดียวกัน ฮาร์โมนิคที่ได้นั้นฉ่ำและเปิดมากๆ จุดที่สองคือความเซนซิทีฟของปุ่มปรับนั้นมีมาก คุณๆ สามารถหาเสียงต่างๆ จากการบิด Knobs เหล่านั้นได้เลย จุดด้อยข้อเดียวที่ผมพบก็คือ ถึงแม้เสียงแตกที่ได้จากการ Crank แอมป์จะดีมาก แต่แลกมาด้วยระดับเสียงที่จะดังมากๆ เช่นกัน ตรงนี้จริงๆ ก็สามารถแก้ไขด้วยการใช้  Attenuator ได้ ซึ่งทาง Komet ก็ผลิตออกมาเช่นกัน

Komet : Songwriter 30 เป็นแอมป์ที่ผมบอกได้เต็มปากเต็มคำว่า ผมยังไม่เคยได้สัมผัสแอมป์ที่ดีขนาดนี้มาก่อน และอยากจะแนะนำให้คุณๆ ได้มีโอกาสอย่างน้อยๆ มาสัมผัสแอมป์ที่ดีแบบนี้กันครับ ไหนๆ สยามประเทศเราก็มีตัวแทนจำหน่ายที่นำเข้าของดีๆ แบบนี้เข้ามาแล้ว อย่าได้พลาดโอกาสแบบนี้ครับ