วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Timmy VS Jan Ray


เป็นที่ถกเถียงกันมากเหลือเกินในฟอรั่มต่างประเทศ และลามมาถึงเมืองไทยนี้ สำหรับ Vemuram Jan Ray Overdrive ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยเรา หรือตลาดยุโรปและอเมริกา ว่าเจ้า JR นี้ แท้ที่จริงแล้วก็คือ Cloning ของ Paul Cochrane Timmy Overdrive ที่ได้รับความนิยมก่อนหน้านั้นอยู่หลายปี อันนี้จริงแล้ว โดยทางวงจรผมเองก็ไม่สันทัดว่ามันเหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร แต่ส่วนตัวผมมีทั้งสองก้อนอยู่ ก็ต้องเอามาเปรียบมวยกันหน่อย เพื่อนความสนุกสนาน

ผมใช้กีตาร์ Swing Guitar Technology (ติดตั้ง Kinman AVn59 Pickups) ทดสอบสองก้อนนี้ร่วมกับแอมป์ Komet รุ่น Concorde และ Marshall 2061cx ลองแล้วรู้สึกว่าแคแรกเตอร์อาจจะคล้ายๆ กันอยู่เล็กน้อย แต่ด้านเสียงต่างกันค่อนข้างจัดเจน ในขณะที่ Timmy มีย่านเสียงเบสเบลอๆ คล้ายๆ Fuzz มากกว่า แต่ Jan Ray จะค่อนข้างหนาและนุ่มไม่คมเท่า และฟังเด้งกว่า และมีเสียงกลางเยอะกว่าชัดเจน ย่านเสียงแหลมนั้น Timmy จะฟังคมสดใสกว่า ในขณะที่ Jay Ray จะฟังอมๆ ทุ้มๆ มากกว่า โดยแคแรกเตอร์แล้ว Timmy จะเป็นแนวๆ กร้าวๆ คมๆ แต่ Jan Ray จะกลมๆ นวลๆ เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับผมแล้วไม่น่าจะเรียกว่าเป็น Cloning ซักเท่าไหร่ครับ 


วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Life Goes On : Music For Friend

ตกบ่ายๆ ของวันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ผมใช้เวลาไม่นานบน MRT จากสุขุมวิทไปถึงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นที่รู้กันว่าสถานที่แห่งนี้ ใช้จัดงานดนตรีดีๆ มามากมายหลายงาน วันนี้ก็เช่นกัน ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้พบงานดนตรีที่นักดนตรีมาเล่นกันด้วยหัวใจ มาเล่นด้วยมิตรภาพ มาเล่นกันด้วยความห่วงหาอาทรเพื่อนนักดนตรีด้วยกัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 พวกเราคนดนตรีอยู่วนเวียนอยู่ในวงการ ก็ได้ทราบข่าวร้ายเมื่อพี่ชายที่เคารพยิ่ง บ้านของพี่เอ๊ดดี้ แห่งคณะออโตบาห์นประสบกับเหตุอัคคีภัย และทางพี่น้องเพื่อนพ้องของพี่เอ๊ดดี้ ก็ใช้เวลาไม่นานในการจัดงานดนตรีขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเยียวยา ใช้ชื่อว่า Life Goes On : Music For Friend ฟังว่าทางคณะผู้จัดนั้นมีแกนสำคัญคือพี่ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล และพี่หมึก วิโรจน์ ควันธรรม

บรรยากาศของงานเป็นไปอย่างสบายๆ มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนคุ้นเคยเดินเจอกันเป็นระยะ มีดนตรีดีๆ ให้ฟังกันตลอดบ่ายล่วงเลยไปถึงช่วงดึก ไม่บ่อยครั้งหรอกครับ ที่เราจะได้เห็นศิลปินต่างค่าย ต่างยุคต่างสมัยมาร่วมเล่นดนตรีกันบนเวทีเดียวกัน มีจุดประสงค์เดียวกันผมได้เห็น พี่โจ-พี่ก้องและนูโวเล่นต่อจากพี่เขียวคาราบาว ผมเห็นน้องเป้ อารักษ์ชื่นชมพี่ซัน มาโนช พุฒตาล ได้เห็นคุณจุ๋ม นรีกระจ่างมอบความรักความห่วงใยแก่พี่เอ๊ดดี้ผ่านบทเพลงมากมายหลายชิ้น การหาเงินช่วยเหลือก็มีกันหลากหลายทาง ทางงานมีขายเสื้อในราคาเพียง 300 บาท และมีกล่องรับบริจาคเดินรอบๆ งาน และศิลปินที่แวะเวียนมาช่วยงานก็ไปยืนให้ผู้ชมถ่ายภาพด้วยที่แบ๊คดร๊อป โดยบริจาค 100 บาทลงกล่อง ผมคิดว่าเป็นไอเดียที่น่ารักมากๆใครที่ได้ไปชมงานวันนั้นคงจะเห็นด้วยกับผมครับ

ขอบพระคุณภาพประกอบจาก www.ToneMax.Net ครับ