วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

Kinman PU AVn59


เนื่องมาจากความซนในครั้งกระโน้นที่ผมโมด์กีตาร์ James Tyler ตัวก่อนเพราะว่าเป็นคนชอบเล่นเสียง  Single Coil อยู่บ้าง แต่ไม่ชอบเสียงจี่ เสียงฮัม เลยจัดการใส่ AVn62 เข้าไป แล้วก็ติดใจกับปิ๊กอัพแบบ Zero Hum ของ Kinman มาตลอด มาคราวนี้เมื่อบทก่อนๆ ผมเขียนถึง Swing Guitar Technology รุ่น  Swing Studio Ash ไว้ ก็ไม่ได้พูดถึง Kinman ที่ติดไว้อย่างละเอียด ก็เลยขอยกมาเล่ากันที่บทนี้แทนเลยก็แล้วกันครับ (ตามไปที่บทนี้ได้ครับ บทความทดสอบ Swing Studio Ash)

หากว่าใครมาอ่านบทนี้เป็นบทแรก ก็เกริ่นให้ฟังก่อนว่า Kiman Pickups นี่เป็น Pickups สายพันธุ์ Australia ครับ Mr.Chris Kinman ออกแบบ Zero Hum Pickups ของเขาโดยการที่พยายามจะพัฒนาให้มีความใกล้เคียง True Coils คือย่านเสียงแหลมไม่กุดหายไป (เหมือนกับยี่ห้ออื่นๆ) และเขาก็ทำได้ตามนั้นเหมือนกันจากที่ส่วนตัวผมเคยเปลี่ยนใส่ไว้สองตัว และสำหรับ Kinman: AVn59 นี้ ตามสเปกค์แล้วมี Output ที่มากกว่า AVn62 ย่านเบสและแหลมน้อยกว่า แต่กลางจะเด่นกว่า แต่ยังอยู่ในช่วงเสียงแบบที่ทาง Kinman เรียกว่า Aged Tone คือเสียงออกวินเทจนั่นเอง


ผมทดสอบ AVn59 กับแอมป์ Komet K50 รู้สึกว่าเสียงกลางที่ได้มาจะเด่นจริงๆ ครับ แต่ไม่ใช่ว่าเบสกับแหลมจะอัตคัต เพราะว่ามันไม่ได้น้อยมากจนเกินไปจนกลวง เสียงเบสอิ่มแหลมไม่บาดตามที่ต้องการ เล่นกับแชนแนลคลีนเงียบสนิท เลยลองทดสอบต่อกับก้อน Bogner Ecstasy Blue เพื่อทดสอบการตอบสนองกับ Overdrive และฟังเสียงรบกวนพร้อมกันไปด้วย เสียงจี่/ฮัมแทบไม่มี และเมื่อบู๊สซ้ำด้วย Majikbox: Rocket Fuel อีกที มีเสียงจี่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก Overdrive และ Booster เป็นที่น่าประทับใจมากๆ ครับ ต้องบอกว่า Kiman Pickups ทำให้เสียนิสัยไปแล้ว เพราะหลังจากคุณเล่นปิ๊กอัพ Single Coils จาก Kinman เมื่อกลับไปเล่น True Coils อีกครั้งจะรู้สึกรำคาญเลยครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนเล่นกีตาร์โดยใช้ Gain พอสมควรแล้วหล่ะก็ ลองหา Zero Hum Pickups จาก Kinman มาใช้เถอะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

Guitarist Surviving Kit


มาเอาตัวรอดกันเถอะ !!

โดยอาชีพแล้ว ตัวผมไม่ใช่นักดนตรีอาชีพครับ แต่มีเพื่อนฝูงเป็นนักดนตรีอาชีพหลายคน มีพี่ๆ น้องๆ เป็นศิลปินก็หลายคน ส่วนใหญ่ๆ สิ่งที่เราคุยๆ กันในวงสนทนา ก็ไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับเครื่องดนตรี เล่นสด  คอนเสิร์ตอะไรต่างๆ ผมเคยถามหลายๆ ท่านเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เคยเจอในการเล่นมีอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ที่เคยได้ยินก็มีพวกสายกีตาร์ขาดระหว่างโชว์ แอมป์ดับ หรือแผงเอฟเฟคต์ไม่ติด เหตุการณ์เหล่านั้นน่าจะเป็นฝันร้ายของคนกีตาร์เลยว่าไหมครับ? บทความบทนี้ ผมเลยนั่งจินตนาการดูว่า นักกีตาร์ทั้งหลายที่เล่นอาชีพ เล่นแบ๊กอัพ หรือเป็นศิลปินแล้ว ทั้งมีและไม่มีกีตาร์เทคนิเชี่ยนเป็นของตัวเอง อย่างๆ น้อยๆ ควรจะมีอะไรติดไว้ในกล่องกีตาร์ หรือ กล่องเอฟเฟคต์บ้างเพื่อความอุ่นใจ เพื่อนๆ ลองคิดในใจก่อน แล้วมาดูในลิสต์ว่าคิดตรงกันไหม ก็เป็นเกมเล็กๆ ที่เล่นร่วมกันดีไหมครับ

1. สายกีตาร์สำรองไว้อีกสักชุดหรือสองชุดก็ไม่เลว
2. คีมตัดสายกีตาร์ พร้อมทั้งเครื่องหมุนลูกบิด 
3. ไขควงปากแบน / ไขควงสี่แฉก (กรณีมนุษย์ฟรอยด์โรสต้องใช้แน่นอน)
4. เหล็กหกเหลี่ยม (สำหรับมนุษย์ FR เช่นกัน)
5. ไฟฉายเล็กๆ สักอัน เวลาเจอเวทีมืดๆ ก็ช่วยได้
6. ถ่าน 9v สัก 2-3 ก้อนกันเหนียว
7. สายเคเบิ้ลสำหรับกีตาร์ซักเส้น พร้อมกับสายพ่วงเอฟเฟคต์เผื่อๆ ไว้ 1-2 เส้น

คิดต่ออีกหน่อย ถ้าคุณเป็นมนุษย์บึกบึนที่แบกแอมป์ของตัวเองไปเล่น

8. หลอดเพาเวอร์ซักคู่ เป็น match-paired ก็เวิร์คละ อย่าลืมเช็คเบอร์นะครับ
9. หลอดพรีแอมป์ซักหลอด อย่าลืมดูว่าพรีคุณเป็นเบอร์อะไรด้วยนะ
10. อันนี้ผมคิดว่าสำคัญมากถึงแม่จะเป็นอันเล็กๆ Fuse ไงครับ อย่าลืมดูว่ามันควรเป็น Slo-Blo หล่ะ


ตรงกันบ้างไหมครับ? ลิสต์มายาวเหยียดนี่จริงๆ อาจจะคิดว่ามันเยอะมากใครจะไปแบกไหว ลองดูดีๆ มันกินพื้นที่ไม่มาก และน่าจะมีประโยชน์กับนักกีตาร์ที่ต้องออกไปเล่นบ่อยๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในระหว่างการแสดง กันไว้ดีกว่าแก้จริงไหมครับ?


วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

Swing Studio Ash

รุ่น Swing Studio Ash



กีตาร์ตัวนี้ผมได้มาด้วยความที่ค่อนข้างจะบังเอิญ เมื่อคราวที่ผมตั้งใจจะประกอบกีตาร์ตัวใหม่ที่จะมีชื่อวงผมแปะบนหัวกีตาร์ (การประกอบกีตาร์เองนี่เริ่มจะเป็นเทรนด์นิยมของมือกีตาร์หลายๆ คนแล้วละครับ) แต่ก่อนที่ผมจะได้เริ่มสั่งอะไหล่ต่างๆ รุ่นที่สนิทกันท่านนึงก็ส่งลิ๊งของเวปที่ผลิตกีตาร์แบรนด์นึงของเกาหลีมาให้ผมดู แล้วบอกว่าเขาจะนำเข้ากีตาร์แบรนด์นี้ ผมสนใจลองเอาไปเล่นไหม ผมขอเวลาคิดอยู่ระยะหนึ่งร่วมกับลองหาข้อมูลในอินเตอร์เนตดู พบว่ากีตาร์แบรนด์นี้ มีชื่อเสียงแล้วพอสมควรในยุโรป และอเมริกา สรุปว่าผมลองซื้อมา 2 ตัวครับ มาลองเล่นดู เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีละรุ่นไปนะครับ



 แบรนด์นี้มีชื่อว่า Swing Guitar Technology รุ่น Swing Studio Ash ผมเลือกสี Transparent Teal Green แบบที่มีให้ดูอยู่หน้าเวปเลยครับ สเปกค์ก็ถือว่าได้มาตรฐานดีพอสมควรเลยคือบอดี้เป็นสวอมพ์แอช คอเป็นเฟรมเมเปิ้ล และฟิงเกอร์บอร์ดเมเปิ้ลแปะทับอีกที กีตาร์มากับระบบปิ๊กอัพแบบ H-S-S ใช้ Tesla: Opus-1 ตัวใกล้คอ และตัวกลาง และ Tesla: Plasma 7 ฮัมบัคเกอร์ตัวใกล้สะพานสาย และคุมด้วย 1 วอลลุ่ม 1 โทน มีสวิทช์ตัดคอล์ยของฮัมบัคเกอร์ด้วย


ทดสอบ Studio Ash แบบเดิมๆ ไม่โมด์ใดๆ
 หลังจากกีตาร์ถึงมือแล้ว ผมเองรู้สึกได้เลยว่า อุตสหากรรมเครื่องดนตรีแข่งขันกันสูงจริงๆ เพราะว่างานกีตาร์ที่ผลิตในเกาหลีปัจจุบันนี้ ดีกว่าเดิมมากๆ และใช้ไม้คุณภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆ ครับ ดูเทียบเอาจากตัวที่ผมได้มาจะเป็นไม้สวอมพ์แอช 3 ชิ้นต่อกันแบบเนียนๆ การทำสีและฟินนิชชิ่งเนี๊ยบมาก คอเมเปิ้ลมีลายพอเหมาะ งานเนี๊ยบสวยเรียบร้อยดีครับ ทางด้านเสียงเดิมๆ เลย ทาง Swing ติดปิ๊กอัพที่เมดอินโคเรีย Tesla Pickups มาทั้งเช็ต สายร๊อค สายแรงน่าจะถูกใจครับ เอาท์พุทพุ่งทะลุทะลวงมากๆ เสียงได้มาตรฐานดีอีกเช่นกัน 



 แต่ส่วนตัวแล้วผมยังไม่ค่อยถูกหูกับพวกแรงๆ ดุดันๆ (หน้าไม่ให้ครับ แฮ่) เลยจับโมดิฟายด์ปิ๊กอัพก่อนเลยเป็นอันดับแรก ทางด้านซิงเกิ้ลคอล์ยนั้น ผมให้ความไว้วางใจในแบรนด์ชื่อว่า Kinman Pickups อยู่แล้ว เพราะเป็นคนไม่นิยมเสียงจี่ เสียงฮัมเลย คราวนี้ผมสั่งรุ่น AVn59 มาติดตั้งทั้งตัวใกล้คอ และตัวกลาง ส่วนฮัมบัคเกอร์ตัวใกล้สะพานสายเลือกอยู่หลายตัว ตอนนี้ติดตั้ง Dimarzio รุ่น PAF Pro ไว้ก่อน กลางๆ และ ไว้ใจได้ (อนาคตอาจจะลองตัวอื่นๆ บ้าง) ส่วนชิ้นอื่นๆ ยังไม่เปลี่ยนครับ มีนิดนึงที่รู้สึกโอเคเลย คือตอนที่เปลี่ยนปิ๊กอัพนั้น ผมสังเกตุดูใต้ปิ๊กการ์ดแล้ว Swing รุ่นนี้ ให้อะไหล่มาดีพอสมควรครับ คือใช้ของ Made In Japan ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็น Volume/Tone POT หรือ Pickup Selector ถือว่ายอมใช้ของดีในรุ่นสูงๆ เป็นการยกระดับกีตาร์ได้ดีทีเดียว


ทดสอบ Studio Ash หลังโมด์ Pickups
  หลังจากเปลี่ยนแล้ว เสียงเป็นที่น่าพอใจขึ้นอีก 20%-30% เลยทีเดียวครับ กลายเป็นกีตาร์ที่ใช้แทนพวกตัวหลักๆ ที่ผมเคยใช้อยู่ได้เลย หน้าตาก็ดูหล่ออีกด้วย ด้วยพื้นฐานไม้ที่โอเคอยู่แล้ว การจะโมด์จะทำอะไรกับกีตาร์เพื่ออัพเกรด ก็จะทำได้ง่ายตามไปด้วยครับ Swing Guitar Technology รุ่น Swing Studio Ash เป็นกีตาร์อีกแบรนด์ที่ถ้าใครสนใจกีตาร์ที่ราคาไม่แพงมาก งานสวย เสียงดี ก็จัดได้เลยครับ (สนใจติดต่อ Guitar Passion Thailand และ CT Music Shop ผู้นำเข้าครับ)