วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

LaBella : Criterion

หลังจากที่ทดลองสาย LaBella Strings รุ่น Vapor Shield ไปแล้ว มีความประทับใจกับสายแบรนด์นี้อย่างมาก เพราะผมไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินซื้อสายกีตาร์ราคาแพงๆ เพื่อที่จะได้คุณภาพที่พอๆ กันแล้ว (ฮา) ช่วงนี้ผมเลยสนใจสายกีตาร์แบรนด์นี้เป็นพิเศษ

และเมื่อสักอาทิตย์ที่แล้ว ผมเริ่มทดสอบสายกีตาร์อีกรุ่นจาก LaBella Strings ชื่อว่า Criterion ซึ่งเป็นรุ่น Standard ของทาง LaBella หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นราคามิตรภาพของเขานั่นหละ ผมลองใช้รุ่นนี้เป็นเบอร์ 10-46 มาตรฐาน


LaBella : Criterion มากับซองไนโตเจนกันชื้น กัน Oxide เกาะ และก็เป็นสายที่ผลิตจากเหล็กผสมอัลลอยด์คุณภาพสูงในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แต่ Criterion จะไม่ได้ผ่านการ Treated ใดๆ เหมือนรุ่น Vapor Shiled จึงทำให้ราคาลดลงมาเป็นราคาที่จับต้องได้ และเปลี่ยนได้บ่อยหน่อย ที่สำคัญชุด Criterion ยังมีสาย E เล็กแถมมาเพิ่มให้อีกเส้นเผื่อขาดอีกด้วย หลังจากแกะซองออกมายังรู้สึกว่าสายสดมาก เงาใสกริ๊ง ผมเปลี่ยนใส่บน PRS Modern Eagle และลองใช้บันทึกเสียง และเล่นซ้อมมือวันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง มาจนถึงวันนี้ ก็น่าจะราวๆ 9-10 วันแล้ว รู้สึกว่าสีของสายหม่นลงเล็กน้อย แต่ยังคงความเงาอยู่บ้าง ยังคงไม่มีสนิม หรือ Oxide เกาะ ในเรื่องของผิวสัมผัสของสายก็เรียบลื่น ไม่มีความสากมือ เล่นง่าย แรงตึงสายดี หยุ่นเหนียวไม่แข็ง เด้งๆ ดีครับ

ด้านของเสียง Criterion ให้เสียงไปทางสดใส แต่ไม่แหลมคมบาดหู เสียงย่านเบส กลางมาครบ หลังจากใช้งานมาประมาณ 10 วัน ยังคงมีความสดใสอยู่มากครับ เสียงย่าน High Frequency ยังไม่เสียหายมากนัก (ตรงนี้คงแล้วแต่ความเค็มของเหงื่อ และความชื้นของมือแต่ละท่านด้วยนะครับ ใครมีมาก สายก็ไปไวกว่าหน่อย) ผมประเมินดูว่า Criterion น่าจะใช้งานได้เต็มที่ประมาณ 15-18 วัน ก็น่าจะเริ่มเข้าข่ายควรเปลี่ยน (ถ้าต้องการความสดของสาย) ซึ่งในความเห็นส่วนตัว ก็คุ้มค่ามากแล้วครับ สำหรับสายราคา 190 บาท อยากได้เพื่อนๆ ได้ลองกันครับ LaBella Strings : Criterion รุ่นนี้ ดีจริงๆ

ถ้าสนใจติดต่อสั่งซื้อ ติดตามไปที่เพจ www.facebook.com/labellathailand ตัวแทนจำหน่าย LaBella Strings ในประเทศไทยได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

LaBella : Vapor Shield

ไม่ได้เขียนอะไรในบล๊อกนี้มาร่วม 2 เดือน สัญญาว่าจะกลับมาเขียนให้ถี่ขึ้นเหมือนช่วงแรกๆ แล้วครับ (แฮ่) วันนี้ผมว่าจะเขียนถึงสายกีตาร์กันบ้าง ปรกติเราก็ใช้สายกีตาร์กันอยู่ไม่กี่ยี่ห้อหรอก ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง แต่ในความเป็นจริง ตลาดสายกีตาร์ของทางเมืองนอกเมืองนาเค้ามีการแข่งขันที่สูงมากๆ มีสายดีๆ ให้เลือกใช้กันหลากหลายจริงๆ 


เที่ยวนี้ผมได้ลองสายชื่อว่า LaBella Strings เป็นสายที่มีผลิตโดยครอบครัวเล็กๆ ในอเมริกา เค้าเองก็พยายามไม่ขยายโรงงานให้ใหญ่โตเพื่อที่จะควบคุมคุณภาพให้มันดีได้มาตรฐานอยู่เสมอๆ ผมเองเคยใช้ LaBella มาบ้างแล้วบางรุ่นเช่น HRS Series และ Roller Wound Series คราวนี้ทาง LaBella ออกรุ่นใหม่มาลุยตลาดสายเคลือบ โดยใช้สโลแกนว่า "Stop Flaking It" ซึ่งแรงมาก กะเอาไว้ตีสายเคลือบที่ใช้เทคโนโลยี่เก่าแบบใช้ฟิล์มเคลือบ เพราะสายประเภทนั้นจะลอกเป็นขุยๆ เป็นที่น่ารำคาฐ เวลาเล่นไประยะหนึ่ง ซึ่ง LaBella ก็บอกเลยว่าของเค้าไม่มีอาการ Flake แน่นอน รุ่นนี้เรียกว่า "Vapor Shield"

ผมไปเสาะหาข้อมูลมาพบว่า "Vapor Shield" นี้ ทาง LaBella นั้นจ้างบริษัทที่ชื่อ Acoustic Science ทำให้ครับ บริษัทนี้ก็เป็นบริษัทผลิตสายกีตาร์เอง และคิดเทคโนโลยี่การ Treated สายแบบลึกถึงระดับโมเลกุล โดยทาง ACS ทำการปรับดัดแปลงผิวเคลือบของเนื้อเหล็กในระดับโมเลกุล (Surface Modification) ใช้วิธีนำสายผลิตใหม่เข้าไปสู้ระบบ Plasma และดึงเอาอากาศออกให้เป็นสุญญากาศ และนำเอาสารที่ใช้ดันแปลงโมเลกุลปล่อยเข้าไปให้ผิวเหล็กปรับสภาพผลที่ได้คือ ผิวของเนื้อสายจะถูกปรับให้ทนทานต่อการสัมผัสของมือ น้ำ น้ำมันและสิ่งอื่นๆ เช่นควันบุหรี่ เหงื่อต่างๆ ผลที่ได้คือการที่สายทนทาน นานกว่าเดิมอีกไม่น้อยกว่า 3-5 เท่า และที่ทำคัญ การ Treated ลักษณะนี้ ไม่มีการใช้ฟิล์ม หรือสารใดๆ มาเคลือบ เพราะฉะนั้นแล้วการลอกเป็นขุย (Flake) หรือเสียงเปลี่ยนไปในทางผิดธรรมชาติก็จะไม่เกิดขึ้น


ผมทดสอบ Labella Vapor Shield เบอร์ 10-46 กับกีตาร์ Gibson SG R61 มาเป็นเวลาราวๆ 5 สัปดาห์ โดยเล่นวันละ 1 ชั่วโมงทุกๆ วัน ผลที่ได้คือ ทางด้านสรีระของสายนั้นจะคงความเงางามเป็นสายใหม่ๆ อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ และจะค่อยๆ หมองลงนิดหน่อย แต่ไม่มีอาการดำ ไม่เป็นขุย จนถึงสัปดาห์ที่ 5 นี้ก็ยังคงสภาพแบบนั้น ไม่มีสนิมแม้แต่จุดเดียว สายคงสภาพดีมาก / ในด้านเสียงจากสัปดาห์แรกที่เล่น ผมไม่พบว่าเสียงจะมีความแหลมคมขึ้นหรือหม่นๆ ในแบบที่สายเคลือบปรกติเค้าเป็นกัน เสียงที่ได้จะฟังบาลานซ์ดีมาก ชัดเป็นเม็ด โลว์นุ่มนวล สายล่างๆ ใสแต่ไม่แหลมคม หลังจากผ่านสัปดาห์ที่ 2-3 ย่านเสียงแหลมมีหายไปนิดหน่อย และคงสภาพนั้นมาถึงสัปดาห์ที่ 5 นี้ครับ / ในด้านผิวสัมผัส ผมไม่พบความประหลาดเท่าไหร่ สายนิ่มมือดีความตึงสายพอดีๆ ไม่หนัก ไม่เบา ดันสายสบายๆ ไม่ต้องบู๊ออกแรงมากนัก เรียกว่าทุกอย่างพอดีๆ สวยๆ ในแบบที่ควรจะเป็นครับ

ผมสนุกกับการใช้สาย LaBella รุ่น Vapor Shield มาก เนื่องด้วยเสียงและผิวสัมผัสเป็นไปตามต้องการ และก็ไม่ต้องเปลี่ยนสายบ่อยๆ เลย ทำให้ไม่ต้องเสียอารมณ์ถ้าต้องการเล่นกีตาร์ที่เก็บใส่กล่องไว้นานๆ เมื่อเอาออกมาเล่นใหม่ ก็ยังคงสดและเล่นได้ยาวนาน เข้าใจว่าผู้นำเข้าทำราคาไว้เพียงชุดละ 440 บาทเท่านั้น การจัดเก็บก็โปรฯ มาก มากับกล่องเหล็กสวยงามและซองสุญญากาศ ลองดูแล้วคุณจะชอบครับ

สนใจลองติดต่อไปที่: www.facebook.com/labellathailand ดูครับ