คราวก่อนได้เขียนเล่าให้ฟังไปแล้วถึงกีตาร์ Made In Korea แดน K Pop ที่เพิ่งได้ทดลองเป็นครั้งแรก แต่รู้สึกได้ว่างานการผลิตค่อนไปทางดีมาก วันนี้มาเขียนเล่าอีกตัวครับ เพิ่งมีโอกาสได้จับต้องได้ลอง Swing Guitar Techonology รุ่น R2 - Millenium Gold (RW) ซึ่ง RW นี่คือเฟรทบอร์ดเป็น Rosewood และตัวกีตาร์เป็นสีทองสวยงามสมชื่อรุ่น
ผมหยิบกีตาร์ออกจาก Soft Case ที่ทาง Swing ให้มาก็เห็นว่างานการผลิตดีใช้ได้เลย สีทำมาเนียน ตัวกีตาร์และคอได้มาตรฐานสวยงามน่าใช้ เช็คสเปกค์ดูก็เห็นว่าใช้ของดีทีเดียวเช่นส่วนคอก็ใช้ Canadian Hard Maple ท๊อปด้วย Indian Rosewood ส่วนตัวกีตาร์ก็เป็นไม้ Alder และมีระบบอิเลคทรอนิกส์เป็น H-S-S ที่น่าจะเล่นได้กว้าง และหลากแนวใช้ปิ๊กอัพของทาง SGT เอง ในส่วน Single Coil สองตัวก็เป็นรุ่น Swing Blues Breaker และ Humbucker เป็น Swing Heart Breaker ทางด้านพวกกลุ่มฮาร์ดแวร์ก็ใช้ของ Swing ผลิตเองก็น่าจะเป็น Made In Korea เช่นกันตามมาตรฐาน ส่วนฟินนิชชิ่งนี่ก็เป็น Gloss และทำสีแบบ Sparkle Gold รวมไปถึง Matching Headstock สวยงามอลังการ ดูคลาสสิคครับ
Rupert Neve เป็นใคร? ผมคิดว่าคงมีคนสงสัยเยอะเลย ก็ตอบกันสั้นๆ ว่า Rupert Neve เป็นวิศวะกรที่ออกแบบอุปกรณ์บันทึกเสียงเช่นพรีแอมป์สำหรับไมโครโฟน, อีควอไลเซอร์ ที่ใช้ในห้องอัดเสียง หรือไม่ว่าจะเป็นคอนโซลบันทึกเสียงในอดีต สิ่งเหล่านี้ทำให้ Rupert Neve มีชื่อเสียงอย่างมากมายมหาศาลและได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Focusrite, AMS Neve, Amek จนได้รับเกียรติได้รับรางวัล Lifetime Achievement Techical Grammy Award เท่านี้ก็น่าจะการันตีความสามารถในการออกแบบ Audio Transformer ของ Rupert Neve Design ได้แล้วใช่ไหมครับ
วันนี้ผมจะมาแกะกล่องของเอฟเฟคต์ Bogner ที่ติดตั้ง RND Transformer ไว้ในวงจร รุ่นนี้เรียกว่า Burnley เป็นเสียงแบบ Distortion ครับ ทุกๆ รุ่นของ Bogner ซีรี่ส์นี้ จะมีทั้งแบบหน้าเป็นโลหะเพนท์สี และหน้าเป็นไม้ Bubinga ซึ่ง Reinhold ให้เหตุผลว่าเขาต้องการให้มีความรู้สึกเหมือนที่คุณจับคอนโซลบันทึกเสียงรุ่นเก่าๆ ที่ทำด้วยไม้ ผมก็ว่ามันคลาสสิคดีครับ Burnley รุ่นที่เป็นหน้าโลหะนั้นเพนท์ด้วยสีออกม่วงๆ ชมพูๆ และมีปุ่มควบคุม 3 ปุ่มคือ Level คุมความดังขณะที่เอฟเฟคต์เปิดใช้งาน Tone ควบคุมเสียงทุ้มแหลม และ Gain ควมคุมจำนวนเสียงแตกหรือความ distort ของเอฟเฟคต์ และมีสวิทช์เล็กๆ ที่มีตัว F และ T ตรงนี้เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังช่วงทดสอบครับ และ LED Light ใหญ่ชัดเจนและจะเปลี่ยนสีทุกครั้งที่มีการดีดแรงๆ จนเกิดการ Clip มุมซ้ายล่างของก้อน จะมีลายเซนต์ของ Rupert Neve ทุกก้อน
ผมทดสอบ Bogner : Burnley กับ James Tyler : Studio Elite ผ่าน Bogner Burnley ไปออก Komet K60/Marshall 2061xc Cabinet เสียงของ Burnley นั้นน่าจะเป็นแนวๆ Mid Gain Distortion ที่มีความเป็น British Style สูง เสียงกลางหนาใหญ่ เสียงย่าน Treble นั้นติดคมๆ น่าจะถูกหูชาวร๊อคมากทีเดียว ย่านเบสนั้น ถ้าปรับท๊อกเกิ้ลเล็กๆ มาทางตัว F ก็จะได้ Full Range Frequency ซื่งจะหนาใหญ่ เบสแน่นลึก ถ้าปรับไปทางตัว T ย่านเบสจะถูก Cut ทิ้งพอสมควร แต่จะฟังกระชับขึ้น ทั้งสองแบบนี้แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน ก็ปรับกันไปทางนั้นเลยครับ ส่วนตัวผมชอบ Full Range มากกว่า เพราะมันฟังแน่นใหญ่มากๆ เล่นกับวง ไม่จมแน่นอน : Burnley Distortion จาก Bogner Amplification เป็นก้อน Mid Gain Distortion อีกก้อนที่มีมิติ มีการปรับที่ค่อนไปทางกว้าง และตอบสนอง Dynamic ดีที่สุดก้อนหนึ่ง ที่คุณต้องลองครับ