วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

WET Reverb

เอฟเฟคต์ประเภทหนึ่งที่นักกีตาร์ส่วนใหญ่จะขาดไม่ได้เลย คงจะเป็นเอฟเฟคต์ประเภท Time Based หรือกลุ่มพวก Delay หรือ Reverb ที่จะช่วยสร้าง หรือจำลองเสียงสะท้อนเพื่อเพิ่มมิติให้กับเสียงกีตาร์ ทำให้ได้เสียงที่ฟังดูมิติความลึกฟังเพราะในทุกสถานการณ์ วันนี้ผมจะพาคุณๆ ไปทำความรู้จักกับเอฟเฟคต์ประเภท Reverb ก้อนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในกลุ่มคนเล่นก้อน ชื่อว่า Neunaber: WET Reverb 


ปัจจุบัน WET Reverb ได้ถูกพัฒนามาจนเป็นเวอร์ชั่นที่ 3 เข้าไปแล้ว และยังเพิ่มรุ่นที่เป็น Stereo ออกมาด้วย เนื่องเพราะไม่เห็นความแตกต่างของ V2 และ V3 ผมจึงลองเอา Stereo Version มาลองใช้งานดู เมื่อแกะกล่องออกมา ผมเทียบ WET V2 กับ WET Stereo แล้วพบว่าเวอร์ชั่น Stereo นั้น มีอีกปุ่มโผล่ขึ้นมา ลองอ่านคู่มือดูได้ความว่าเป็นปุ่ม Tone ใช้ควบคุมความทุ้มแหลมของเสียงตาม (Decay) และอีกจุดที่น่าสนใจก็คือมี USB Port ไว้ให้อัพเดทเจ้า Reverb ตัวนี้ด้วยซอฟท์แวร์ของทาง Neunaber เอง เรียกว่า Pedal Customizer อีกด้วย อีกจุดที่เพิ่มมาคือช่องต่อ Expression Pedal สำหรับ Mix/Depth ทำให้คุณสามารถควบคุมสองฟังก์ชั่นนี้ด้วยเท้า (เมื่อใช้ Exp Pedal)

ผมทดสอบ WET Stereo Reverb นี้กับกีตาร์ Fender '51 Nocaster ต่อตรงเข้า Reverb และไปออกแอมป์ Victoria 50212 ในส่วน Mono และลอง 50212 กับ Bogner Shiva ในส่วน Stereo พบว่า เสียงที่ได้จาก WET Stereo นั้นเทียบจะเหมือนกับ WETV2 ไม่ผิดเพี้ยน แต่ปุ่ม Tone ที่เพิ่มมานั้นก็ช่วยให้เราควบคุมความทุ้มแหลมของเสียงตามได้ดีขึ้น เนื่องจาก WET V2 (หรือ 3 ในปัจจุบัน) มีความใสมาก อาจจะไม่ค่อยถูกหูสำหรับคนที่ชอบ Reverb แบบหม่นๆ นัก เมื่อมีปุ่ม Tone เพิ่มเข้ามาทำให้ใช้งานได้หลากขึ้นอีกมากทีเดียวครับ ยอดมากๆ


ผมทดสอบ Stereo ด้วยการเสียบต่อสองแอมป์ โดยให้สองแอมป์อยู่คนละมุมห้อง ถ้าใครไม่เคยเล่นกีตาร์โดยใช้สองแอมป์หล่ะก็ แนะนำให้ลองด่วนครับ ได้เสียงที่ฟังฉ่ำและอลังการมากๆ พูดถึงเจ้า WET นี่ จะให้เสียง Reverb ในแบบ Plate นะครับ จะไม่ใช่แบบ Spring อย่างที่เข้าใจกัน จะฟังเนียนๆ ฉ่ำๆ ไม่มีการสั่นๆ เป็นก้อนที่ต้องบอกว่าติดมากครับ เปิดแล้วไม่ค่อยอยากปิด เพราะมันฟังเพราะจริงๆ ใครที่มองหา Reverb เจ๋งๆ ที่ซื้อทีเดียวจบ ใช้งานง่าย Neunaber: WET Reverb ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ


วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Vovox: Sonorus Cable


สายเคเบิ้ลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นักดนตรีหลายๆ คนมักมองข้ามกัน จริงๆ ผมเข้าใจว่าเจ้าเคเบิ้ลเนี่ย มันมีความสำคัญไม่ต่ำว่า 30-40% เลยทีเดียว เพราะเป็นส่วนที่จะนำพาสัญญาณเครื่องดนตรีของคุณๆ ผ่านไปยังแอมป์พลิฟายด์ให้เราได้ยินได้ฟังกัน เพราะฉะนั้นแล้วสัญญาณจะถูกลดทอนลงมากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่คุณภาพของสายนี่แหละ

ผมได้ยินชื่อ Vovox Sound Conductor เป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีมาแล้วครับ จากการได้ที่ได้เห็นบอร์ดเอฟเฟคต์ของพี่กอล์ฟ แห่งวง T-Bone วงยอดฝีมือวงหนึ่งของเมืองไทยเรา พี่กอล์ฟนี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นคนเล่นของระดับต้นๆ ของบ้านเรา ครั้งแรกที่ผมเห็นบอร์ดพี่เขา ผมสนใจเรื่องพวกสายเคเบิ้ลนี่มาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ฟังว่าเป็นสายที่ให้สัญญาณเสียงที่เก็บรายละเอียดได้ครบ แต่ไม่ทำลายเนื้อเสียงและย่านความถี่ ผมไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า Kurt Rosenwinkle มือกีตาร์แจ๊สชื่อดังก็เป็นอีกท่านที่ไว้วางในสายเคเบิ้ลแบรนด์นี้มากๆ เช่นกัน

สายสัญญาณ Vovox Sonorus ที่ผมได้มา เป็นขนาดความยาว 3.5 เมตร พบกว่า สายมีน้ำหนักเบามากๆ เมื่อเทียบกับสายสัญญาณแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ตัว Core หรือแกนของสายเหมือนว่าเป็นสายสัญญาณสองเส้นพันกันเป็นรูปเกลียวและหุ้มด้วย Natural Fibre Net เพื่อเป็นฉนวนกันพวก Noise ต่างๆ เนื่องจากตัวสายมีการ Twisted อยู่แล้ว จึงทำให้การบิดงอ โค้งไป โค้งมาได้ตามสถานการณ์ นับว่าสะดวกทีเดียว และด้วยตัวสายมีน้ำหนักเบามา จึงไม่รู้สึกว่าเกะกะเวลาเดินไป เดินมา


ผมทำการทดสอบ Vovox: Sonorus ความยาว 3.5 เมตร จากกีตาร์ Fender Stratocaster เข้าตู้แอมป์ Victoria 50212 ตรงๆ โดยไม่ผ่าน FX ใดๆ อย่างแรกที่ผมพบว่า Sonorus แตกต่างจากเคเบิ้ลชนิดอื่นๆ คือความชัดเจนของย่าน High Frequency ออกมาชัดเจน ที่ว่าชัดเจนในความหมายของผมนั้น คือไม่แหลมนะครับ แต่ฟังเคลียร์และชัดทุกโน๊ต และย่านเสียงกลางและเบสนั้นฟังธรรมชาติ ไม่มีอาการถูกบีบอัด (Compressed) ใดๆ ทั้งสิ้น ซาวด์ที่ได้จึงฟังโปร่งสบายหูครับ สมราคามากทีเดียว เพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจอยากจะอัพเกรดสายเคเบิ้ลให้กับกีตาร์/เบส ของตัวเอง และอัพเกรดสายเคเบิ้ลในบอร์ดเอฟเฟคต์หล่ะก็ Vovox: Sonorus เป็นสายอีกแบรนด์ที่คุณๆ "ต้องลอง" เลยครับ ลองติดต่อตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราดูครับ เป็น Pedals' Park Music Playground 


วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Kinman: Bridge Blaster


มีบทความหนึ่งที่ผมเคยเขียนไว้เรื่องของการตัดเสียงรบกวน หรือที่เราเรียกกันว่า Noise นอกจากการใช้เครื่องมือบางชนิดช่วยแล้ว การแก้ไขจากตัวกีตาร์เองก็มีผลอย่างมาก จึงมีหลายบริษัท หลายโรงงาน ทำการผลิตเครื่องมือสำคัญที่เรียกว่า Guitar Pickups ที่เป็นชนิด Noiseless แต่ปัญหาหลักๆ ของปิ๊กอัพชนิด Noiseless ในอดีต ก็คือการที่เสียงย่านแหลม ถูกตัดออกไป ย่าน presense ก็จะฟังเหมือนถูกบีบอัดเยอะ ผลคือเสียงจะฟังดูห้วนๆ กุดๆ แต่นั่นคือปัญหาของ Pickups ของสมัยก่อน

ผมมี Fender Esquire อยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งมีปิ๊กอัพเดียว แต่เดิมเค้าใส่ Seymour: BG1400 ที่เรียกว่า Stacked Single Coil หมายถึงว่ามี Coil 2 อันวางซ้อนกัน เท่ากับว่าเป็น Humbucker นั่นแหละ ผมรู้สึกอยู่ว่าความ Twangy แบบ Tele แท้ๆ มันมีน้อย แต่ได้ความแรงและเงียบกว่า Single Coil ถึงกระนั้นผมก็ต้องการ Output ที่ค่อนข้างแรง แต่มีความเหน่อ และ Twang ในสไตล์ Single Coil และที่สำคัญ ต้องมี Noise น้อย จนถึงไม่มีเลย เมื่อโจทย์ผมเป็นแบบนี้ ความยากมันก็เลยอยู่ที่เรื่องของ Noise เพราะ Pickups ประเภท Single Coils ที่ Noise น้อยๆ ก็เห็นจะมีแต่พวก Noiseless ซึ่งจะมีปัญหาที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้น ถึงกระนั้นผมก็ยังโชคดี ที่มีเพื่อนแนะนำให้ไปลองสั่ง Pickups แบรนด์นึง ชื่อว่า Kinman Pickups เค้ามีผลิตปิ๊กอัพสำหรับ Telecaster ที่ให้เสียงและ Output กระเดียดไปทาง P-90 เรียกว่ารุ่น "Bridge Blaster" ผมลองอ่านข้อมูลจากทาง Kinman แล้วก็ไม่ลังเลที่จะสั่งมาลองเลย

หลังจากเปลี่ยนจากของเดิมมาเป็น Kinman: Bridge Blaster แล้ว ผมทดสอบผ่าน Bogner Shiva 6L6 พบว่า Bridge Blaster ถึงแม้จะยังมีเสียงรบกวนอยุ่ แต่ก็มีเพียงนิดหน่อย และมี Noise ต่ำกว่าพวก Single Coil ธรรมดาด้วยซ้ำ ผมต้องขอบอกว่า ยังไม่เคยเจอ P-90 แบบไหนที่เงียบขนาดนี้ แต่ให้ความหนักหน่วงของเสียงในแบบ Twang และ Punky มากๆ เสียงจะออกย่านกลาง-ทุ้มเยอะ และย่านแหลมดีแต่ไม่บาดหู เมื่อเล่นกับ Overdrive/Distortion แล้วเสียงที่ได้ ก็จะออกจี๊ดจ๊าด คม และกลางเด่น ไม่จม เสียงแต่ละสายออกครบ และชัดเจน บาลานซ์ดี ปัญหาสองสายล่างเบาไม่มีเลย ซึ่งผมชอบมาก ไดนามิกที่เล่นตามน้ำหนักมืออกมาดีมากๆ 

ผมแนะนำครับ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนปิ๊กอัพกีตาร์ และอยากได้ Single Coil ที่จี๊ดจ๊าด สำหรับ Telecaster และต้องการพวก Noiseless สำหรับคนที่รำคาญเสียงจี่ Kinman: Bridge Blaster เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คุณๆ น่าจะพอใจ ถ้าหาสนใจ Kinman ลองสอบถามไปทาง Pedals' Park Music Playground ตัวแทนจำหน่าย Kinman Pickups ได้ครับ