วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Pete Cornish : G-2


เมื่อเร็วๆ นี้ผมเพิ่งได้ก้อนเสียงแตกใหม่มาก้อนหนึ่ง ซึ่งจะว่าไปแล้วแบรนด์นี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังมานานมากๆ แต่ยังไม่เป็นที่นิยมกันในบ้านเรา ก็คงเพราะว่าราคาที่ค่อนไปทางสูงและไม่ค่อยมีร้านค้าที่ไหนมีของ และถ้าสั่งกับทางโรงงานเอง ก็ต้องรอเป็นเวลานานมากๆ เป็นเหตุให้พ่อค้าหัวใสบนอีเบย์ปล่อยขายได้ในราคาที่สูงเกินจริง แบรนด์ที่ว่านี้คือ Pete Cornish แต่ในปัจจุบันนี้ทางโรงงานปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน และนำเอาลูกชายของเขาเองมาช่วยงานแล้ว การผลิตจึงทำได้รวดเร็วขึ้น (ถึงจะรวดเร็วขึ้นก็ยังต้องรอหลัก 3 เดือนอยู่ดีครับ)

Pete Cornish ดังอย่างไร? หลายท่านที่บังเอิญมาอ่านบทความของผมอาจจะสงสัยแบบนี้ ก็ต้องบอกว่ามีชื่อเสียงอย่างมากๆ ครับ Pete Cornish ทำ Custom Effects และ Custom Pedalboard ให้กับศิลปินดังๆ มากมายหลายคนเลยทีเดียว เช่น David Gilmour จาก Pink Floyd, Brian May จาก Queen หรือจะมารุ่นใหม่ๆ หน่อยก็จะเป็น Noel Gallagher จาก Oasis และล่าสุดก็คือ John Mayer ศิลปินเหล่านี้คงจะการันตีแล้วว่า Pete Cornish ดีอย่างไร

แต่เริ่มแรกนั้น ส่วนตัวผมเองก็ยังเลือกไม่ถูกว่าอยากสั่งอะไรมาเล่น แต่ได้ยินว่ารุ่น P-1, P-2 นั้นดังมากมายาวนานเนื่องจาก David Gilmour ใช้มายาวนาน หลังจากไปอ่านสเปกอ่านข้อมูลอยู่เลยตัดสินใจสั่งรุ่นที่ชื่อ G-2 มา เนื่องเพราะฟังว่ามีคุณสมบัติเหมือนเสียงแอมป์ในยุค 70s มีการอ้างอิงเสียงกีตาร์ของวง Led Zeppelin, Rolling Stones ซึ่งเป็นวงโปรดของผมอยู่แล้ว ผมใช้เวลาราวๆ 3 เดือนรอ G-2 ส่งมาถึงบ้าน ผมเลือกสั่งรุ่นหน้าตาใหม่ที่เรียกว่า Battery Free เพราะมีขนาดเล็กลง และสุ้มเสียงนั้นเหมือนกัน เนื่องเพราะใช้วงจรเดียวกัน แต่ตัดส่วนที่ใส่ถ่านออกไป

G-2 มากับบ๊อกซ์สีดำที่เรียบง่าย หน้าตาเหมือนกับเครื่องมือทหารในสมัยก่อน ดูเท่ห์ไปอีกแบบ ใช้ Knobs หมุนแบบแอมป์เฟนเดอร์เก่าๆ หล่อๆ มีปุ่มควบคุมกันแค่ 3 ปุ่มคือ Volume คุมเสียงดัง/เบา Tone คุมย่านเสียงทุ้ม/แหลม และ Sustain คุมจำนวน Distortion ของก้อน ง่ายๆ ครับ สวิทช์เปิดปิดนั้น ทาง Pete Cornish นั้นใช้แบบ Buffer เนื่องจากเค้าเคยให้ความเห็นไว้ว่า True Bypass ไม่ใช่ของที่ดีเสมอไป บางครั้งการที่เราลากสายยาวๆ แล้วทั้งบอร์ดเป็น True Bypass ทั้งหมดนั้น ทำให้เราสูญเสียสัญญาณบางส่วนไปอย่างน่าเสียดาย 



ผมทดสอบ G-2 ด้วยกีตาร์ Gibson Les Paul Standard ผ่าน G-2 ไปเข้าแอมป์ Bogner : Barcelona - International 1x12 Cabinet พบว่าเสียงของ Distortion ที่ได้จาก G-2 นั้นมันจะเป็นลักษณะของเสียงแตกที่มีย่านโลว์คล้ายๆ Fuzz แต่จะแตกแบบ Distortion ที่เราคุ้นๆ กันตามแผ่นเสียงของพวก 70s , 80s Rock, Hard Rock ผมมาถึงบางอ้อก็ตอนที่อีเมล์กลับไปถามเค้าว่า G ย่อมาจากอะไร ซึ่งเค้าตอบว่า Germanium ครับ แสดงว่า G-2 นั้นเป็น Distortion ที่ใช้ Germanium Transistor มากกว่าจะใช้ชิพพวก 4558 ปรกติ หรือพวก LM308N ทั่วไป และการใช้ Germanium จะได้เอกลักษณ์ที่มีความอิ่มนวลของเสียงแตกดีทีเดียว อีกจุดที่ผมพอใจมากคือ ความสว่างของเสียงนั้นเปิดมากกว่าเอฟเฟค Distortion อื่นๆ ที่ผมเคยเล่นมา ผมลองวัดกับอีกหลายๆ ตัว เปรียบได้ว่าตัวอื่นๆ เหมือนเราเอาหมอนไปปิดหน้าตู้ไว้ จะฟังอู้ๆ กว่า G-2 พอสมควรทีเดียวครับ 



Pete Cornish G-2 เป็นก้อน Distortion ที่ดีมากๆ อีกก้อนนึง ที่ถ้าคุณมีโอกาสได้สัมผัส หรือเป็นเจ้าของ ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เข้าใจว่าบ้านเราไม่มีตัวแทนจำหน่ายครับ ถ้าคุณสนใจอยากได้ ก็ไปลงชื่อสั่งซื้อได้เลยที่ www.petecornish.co.uk ครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น