วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Mighty Red Distortion

ถ้าหากจะพูดถึงเอฟเฟคหลักๆ ที่นักดนตรีทั่วๆ ไปใช้กัน สิ่งที่นึกถึงอันดับต้นๆ ก็คงจะเป็น Distortion ที่สามารถไว้วางใจได้สักตัวหนึ่ง มาวันนี้ผมจะนำเอาเอฟเฟคต์ Distortion รุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมกันแบบสุดๆ และโด่งดังขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็วมากๆ และยังคงเป็นที่นิยมกันอย่างมากจนถึงตอนนี้ ผมกำลังพูดถึงเอฟเฟคต์จากค่าย Mad Professor ที่ชื่อว่า Mighty Red Distortion


Mighty Red Distortion เป็นก้อน Distortion รุ่นแรกๆ ที่ทาง Mad Professor ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2007-2008 นู่น ใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ ก็ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบก้อนเสียง Distortion ที่มีย่านเบสฟังกระชับ ย่านกลางและแหลมฟังดูโดดเด่น MRD ก็เป็นหนึ่งในเอฟเฟคต์ที่ค่าย Mad Professor ผลิตออกมาเป็นสองซีรี่ส์คือ Handwired Series และ PCB Series ก็คือ Handwired Series จะใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นระดับที่เรียกว่าเป็น Military Grade คือเป็นวัสดุที่เรียกว่าเป็นระดับเยี่ยมๆ ที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว พร้อมด้วยวิธีการผลิตนั้นใช้มือเชื่อมวงจรแบบไม่ง้อเครื่องจักร ส่วน PCB Series ก็จะเป็นซีรี่ส์ที่ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นเกรดที่เรียกว่าดีมาก แต่ไม่ถึงแบบ Military Grade และทาง Mad Professor ก็ไม่ยอมใช้วัสดุจากนอกโรงงานนะครับ เขาใช้วิธีออกแบบและผลิตวัสดุอุปกรณ์ในโรงงานเองเพื่อเป็นการควบคุมการผลิตให้ถึงจุดที่ดีที่สุด แต่เป็นการลดต้นทุนการผลิตที่ทำให้ราคาของ PCB Series ย่อมเยาลงมาพอควรครับ



ผมทดสอบ Mighty Red Distortion กับกีตาร์ Gibson Les Paul Standard ไปเข้าแอมป์ Bogner Shiva เปรียบเทียบกันทั้งสอง Series พบว่า MRD เป็น Distortion ที่เป็นก้อนๆ ที่มีกลิ่นออกไปทาง British Sound ในแบบ Marshall Amp ที่มีย่าน Bass ที่ใหญ่และกระชับ ย่าน Treble ที่คมและ cut-thru ซึ่งตรง cut-thru นี่ เมื่อไปเล่นกับแบนด์ก็มีความสำคัญอยู่มาก เพราะจะฟังค่อนข้างชัดเจนเมื่ออยู่กับกลุ่มเครื่องดนตรีอื่นๆ (ก้อนบางก้อนจะฟังดูดีเมื่อเล่นคนเดียว เวลาไปเล่นกับวง ก็จม แบบนี้ก็มี)

ข้อดีของ MRD น่าจะเป็นปุ่มโทนที่ไม่เหมือนกับโทนซะทีเดียว แต่มันเป็นย่าน Presence ที่ควบคุมเรื่องของย่านเสียงแหลมและจะไม่มีผลกับย่านเบสหรือกลาง จะช่วยทำให้แคแรกเตอร์ของเสียง Distortion เปลี่ยนไป ทำให้เล่นได้หลากหลายขึ้น เหมาะกับนักกีตาร์ที่ต้องการความหลายหลาย เหมาะกับคนที่เล่นแนวๆ Pop/Rock/Metal ได้หลายๆ แนวเลยครับ ส่วนด้านความแตกต่างระหว่าง Handwired และ PCB ที่ฟังออกชัดๆ ก็น่าจะเป็นว่า HW จะฟังแน่นๆ และ texture จะฟังดูละเอียดกว่า ในขณะที่ PCB จะได้ Gain เยอะขึ้น เสียงแตกหนักหน่วงกว่า แต่แคแรกเตอร์เสียงจะเหมือนกันแทบจะ 100% เรียกว่าฟังไม่ออก แต่ผู้เล่นจะรู้เอง โดยสรุป Mighty Red Distortion จากค่าย Mad Professor เป็นหนึ่งในก้อน Distortion คุณภาพ ที่แนะนำให้ลองไปทดสอบดูครับ


2 ความคิดเห็น:

  1. พี่ครับแนะนำแตกหลักหน่อยครับ เล่น ROCK ทั่วไปพวก UFO,DEEP PURPLE ประมาณนี้ ที่เล็งไว้มี mighty red, wampler pinnacle,BB Preamp อีกนิดคครับแบบใช้ ริทึ่มและโซโล่ได้ในตัวเดียวครับ

    ตอบลบ
  2. Mad Professor : Mighty Red / Bogner Ecstasy Red ได้ดีมากทั้งคู่ครับ

    ตอบลบ