คราวที่แล้ว ผมเขียนทดสอบก้อน Bogner Uberschall ไปแล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ฮือฮาดีมากเลยครับ นักกีตาร์พี่ๆ น้องๆ ชาวเมตัลคงจะชอบใจ คราวนี้ ผมอยากเขียนถึงอีกรุ่นหนึ่งที่ออกมาพร้อมๆ กันบ้าง เป็นก้อนฟ้าที่เรียกว่าจำลองแชนแนล Blue มาจากแอมป์ที่เรียกว่าเป็นตำนานของ Bogner ไปแล้ว คือรุ่น Ecstasy นั่นเอง เจ้า Ecstasy Blue เป็นแชนแนลที่ให้เสียงแนวๆ Crunch หรือเสียงแตกที่เริ่มๆ จะ Break Up ของแอมป์ หรือจะเรียกว่าเป็น Overdrive ก็ยังได้ จาก Ecstasy Amp ครับ ส่วนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เพิ่งจะได้อ่านตอนนี้เป็นตอนแรก และสงสัยว่า Bogner Amplifications มันดังอะไรยังไง รบกวนตามลิ๊งไปลองอ่านประวัติพอสังเขปของ Reinhold Bogner ดู :
http://aplayboysreturn.blogspot.com/2012/07/bogner-history.html
ก้อน Ecstasy Blue นี้ มากับแพ๊คเกจสวยงามคล้ายๆ กับตัว Uber เว้นแต่ว่าตรงมุมของกล่องจะพิมพ์คำว่า Ecstasy Blue แทน เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับก้อนสีฟ้าสวยงาม ขนาดเดียวกันกับ Uber เช่นกัน แต่ตรงหน้าปัทม์จะต่างกันอยู่ ถึงแม้จะมี Volume - Treble - Mid - Bass - Gain เหมือนกัน แต่ด้านบนเหนือนปุ่มหมุ่นจะเป็น Toggle Switch อยู่ถึง 4 อัน ไล่ไปจากซ้ายไปขวาคือ Variac - Mode - Pre EQ - Structure อะไรเป็นอะไรผมจะเล่าให้ฟังกันตามลำดับครับ และแน่นอนว่าต้องมีปุ่ม Boost ด้วย แต่ Ecstasy จะมี Boost ทั้ง Volume และ Gain ด้วยเลย ควบคุมได้จาก Trim Pot เล็กๆ ที่วางอยู่ใต้ Volume และ Gain หลัก สองปุ่มนี้มีผลมากกับเสียงขอเจ้า Ecstasy Blue นี้ เดี๋ยวผมจะค่อยๆ เล่าให้ฟังเช่นกัน
เรื่อง panel ปรกติคือ Volume หรือ EQ คงจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากคงจะคุ้นเคยกันมาอยู่แล้ว ผมจะพูดถึง Toggle Switch ที่เพิ่มเติมเข้ามาว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจาก:
- Variac: เมื่อ On จะเสมือนเป็นการลด Voltage จะทำให้เสียงเบาลง มีคอมเพรสมากขึ้น (บางกรณีใช้สำหรับการเล่นในบ้าน เมื่อต้องการให้เสียงแตกเต็ม ในวอลลุ่มที่เบาลงได้ด้วย)
- Mode: Plexi จะเป็นโหมดที่แทบจะไม่แตกจะได้เสียง Crunchy แบบแอมป์ยุค 70 ส่วน Blue จะเป็นโหมดสีฟ้าของแอมป์ Ecstasy จะแตกกลางๆ ค่อนไปทางโอเวอร์ไดร์ฟ แต่จะไม่มี compression ทำให้เสียงเปิดมาก
- Pre EQ: ว่ากันง่ายๆ บ้านๆ ก็คือ Bright Switch นั่นเองครับ จะมี B1/B2 เป็นลักษณะการ Bright คนละแบบ ส่วน N จะเป็น Natural คือเป็นเสียงปรกติ
- Structure: เรียกว่าเป็น Character เสียงของแอมป์ Ecstasy ที่ผลิตมาสามรุ่น คือ 101 = 101B จะฟังวินเทจแต่ยังมีเกนท์มาก 100 = Classic Mod เป็นวินเทจและเกนท์น้อย และเสียงกลางจะเด่นกว่า 101 สุดท้าย 20th คือเสียงแบบหลอด KT88 จะแตกเยอะสุด เสียงจะโมเดิร์นสุด
ผมทดสอบ Bogner Ecstasy Blue ด้วย Gibson Les Paul Standard R9VOS (ติด Bare Knuckle: Blackdog) เล่นกับ Bogner Shiva 6L6 + Bogner Shiva 2x12 Cabinet ผมเริ่มเล่นจาก Plexi Mode ก่อน บิดเกนท์ไปสุดแล้วยังไม่ค่อยแตกเท่าไหร่ เมื่อเปิด Boost ช่วย เสียงแตกที่ได้จะมันส์มากๆ เสียงจะละม้ายกับเสียง Classic Rock Guitar ที่เราได้ยินกันในแผ่นเพลงยุค 70s เลย เสียงเพราะมากๆ การ Boost ของ Ecstasy นี้ก็แจ๋วนะครับ สามารถคอนโทรลได้ทั้ง Boost Volume และ Boost Gain คุณๆ สามารถเลือกเปิดมาน้อยได้ตามใจชอบ ผมใช้วิธีปิด Boost Volume แต่เปิด Boost Gain ไว้ประมาณ 11 โมง เล่นสนุกมาก ถึงแม้จะ Boost แล้วก็ยังไม่มี Compression ให้ได้ยิน เมื่อสวิทช์ไปที่ Blue Mode ได้เกนท์เพิ่มอีกพอสมควร เป็นกึ่ง Cruch กึ่ง Overdrive ที่เสียงเปิดมาก (ฝรั่งเค้าเรียก Open) จุดเด่นของ Blue Pedal น่าจะอยู่ที่ตรงนี้ครับ คือเสียงฟังไม่รุนแรงมาก เนื้อเสียงฉ่ำ เต็มและฟังเป็น Overdrive/Crunch ที่เพราะโขอยู่ เมื่อ Boost เข้าไป ก็ได้เสียงเป็นพวก Hi Gain ได้เหมือนกันครับ พอเพียงที่จะเล่น Pop/Blues/Rock/Hard Rock ได้สบายๆ เลย โดยสรุป Bogner Ecstast Blue เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีคุณภาพสูงจริงๆ สำหรับก้อน Overdrive หรือคนที่ต้องการเสียงแตกขนาดกลางๆ เสียงแตกฟังฉ่ำและเนื้อเสียงแน่นละเอียด ถ้าสนใจอยากลองเจ้า Bogner Pedals ก็ติดต่อตรงไปที่ Pedals' Park Music Playground ได้เลยครับ
- Variac: เมื่อ On จะเสมือนเป็นการลด Voltage จะทำให้เสียงเบาลง มีคอมเพรสมากขึ้น (บางกรณีใช้สำหรับการเล่นในบ้าน เมื่อต้องการให้เสียงแตกเต็ม ในวอลลุ่มที่เบาลงได้ด้วย)
- Mode: Plexi จะเป็นโหมดที่แทบจะไม่แตกจะได้เสียง Crunchy แบบแอมป์ยุค 70 ส่วน Blue จะเป็นโหมดสีฟ้าของแอมป์ Ecstasy จะแตกกลางๆ ค่อนไปทางโอเวอร์ไดร์ฟ แต่จะไม่มี compression ทำให้เสียงเปิดมาก
- Pre EQ: ว่ากันง่ายๆ บ้านๆ ก็คือ Bright Switch นั่นเองครับ จะมี B1/B2 เป็นลักษณะการ Bright คนละแบบ ส่วน N จะเป็น Natural คือเป็นเสียงปรกติ
- Structure: เรียกว่าเป็น Character เสียงของแอมป์ Ecstasy ที่ผลิตมาสามรุ่น คือ 101 = 101B จะฟังวินเทจแต่ยังมีเกนท์มาก 100 = Classic Mod เป็นวินเทจและเกนท์น้อย และเสียงกลางจะเด่นกว่า 101 สุดท้าย 20th คือเสียงแบบหลอด KT88 จะแตกเยอะสุด เสียงจะโมเดิร์นสุด
ผมทดสอบ Bogner Ecstasy Blue ด้วย Gibson Les Paul Standard R9VOS (ติด Bare Knuckle: Blackdog) เล่นกับ Bogner Shiva 6L6 + Bogner Shiva 2x12 Cabinet ผมเริ่มเล่นจาก Plexi Mode ก่อน บิดเกนท์ไปสุดแล้วยังไม่ค่อยแตกเท่าไหร่ เมื่อเปิด Boost ช่วย เสียงแตกที่ได้จะมันส์มากๆ เสียงจะละม้ายกับเสียง Classic Rock Guitar ที่เราได้ยินกันในแผ่นเพลงยุค 70s เลย เสียงเพราะมากๆ การ Boost ของ Ecstasy นี้ก็แจ๋วนะครับ สามารถคอนโทรลได้ทั้ง Boost Volume และ Boost Gain คุณๆ สามารถเลือกเปิดมาน้อยได้ตามใจชอบ ผมใช้วิธีปิด Boost Volume แต่เปิด Boost Gain ไว้ประมาณ 11 โมง เล่นสนุกมาก ถึงแม้จะ Boost แล้วก็ยังไม่มี Compression ให้ได้ยิน เมื่อสวิทช์ไปที่ Blue Mode ได้เกนท์เพิ่มอีกพอสมควร เป็นกึ่ง Cruch กึ่ง Overdrive ที่เสียงเปิดมาก (ฝรั่งเค้าเรียก Open) จุดเด่นของ Blue Pedal น่าจะอยู่ที่ตรงนี้ครับ คือเสียงฟังไม่รุนแรงมาก เนื้อเสียงฉ่ำ เต็มและฟังเป็น Overdrive/Crunch ที่เพราะโขอยู่ เมื่อ Boost เข้าไป ก็ได้เสียงเป็นพวก Hi Gain ได้เหมือนกันครับ พอเพียงที่จะเล่น Pop/Blues/Rock/Hard Rock ได้สบายๆ เลย โดยสรุป Bogner Ecstast Blue เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีคุณภาพสูงจริงๆ สำหรับก้อน Overdrive หรือคนที่ต้องการเสียงแตกขนาดกลางๆ เสียงแตกฟังฉ่ำและเนื้อเสียงแน่นละเอียด ถ้าสนใจอยากลองเจ้า Bogner Pedals ก็ติดต่อตรงไปที่ Pedals' Park Music Playground ได้เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น