วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Namm Show 2012 Pt.1





  ในแต่ละปี ผมจะตั้งตาติดตามเวปบางเวปที่มีสมาชิกในเวปนั้นๆ ได้มีโอกาสได้ ไปร่วมงานที่ต้องเรียกกันว่า มหกรรมเครื่องดนตรี หรือ มหกรรมดนตรีที่ใหญ่มากๆ ที่จัดอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องติดตามก็เนื่องจากว่า ถ้าคุณๆ เป็นคนบ้าอุปกรณ์ดนตรีแบบที่ผมเป็น ก็ต้องอยากจะติดตามว่าในแต่ละปี จะมีของเล่นสำหรับคนดนตรีอย่างเรา (เอฟเฟคต์ก้อน และ แอมป์ สำหรับผม) มีอะไรออกใหม่ๆ บ้าง งานที่ว่านี้เราอาจจะคุ้นเคยได้ยินที่เขาเรียกกันว่า Namm Show


งาน Namm Show (อ่านว่าแนม โชว์นะครับ ไม่ใช่แหนม โชว์อย่างที่มีคนเค้าแซวกัน) เจ้างานนี้ ฟังว่าจัดขึ้นมานานโขแล้วครับ ตั้งแต่ปี 1901 โน่น แล้วก็ย่อมาจาก National Association Of Music Merchants (ยาวไม๊?) ซึ่งอธิบายกันง่ายๆ ก็คือเป็นงานที่มีบริษัทผู้ผลิตเครื่องดนตรี หรือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับดนตรี เค้ามาจัดแสดงสินค้าใหม่ๆ ให้เราได้ชม ไม่เฉพาะเกี่ยวกับกีตาร์ เบส หรือ กลองแค่นั้นนะครับ ยังมีเกี่ยวข้องกับเครื่องเป่า เปียโน ไวโอลิน เครื่องคลาสสิค หรือแม้กระทั่งบริษัทที่ผลิตพวกโน๊ตเพลงและอื่นๆ อีกมากมาย (มากมายขนาดผมเดินสามวัน วันละ 6 ชั่วโมง ก็ยังไม่ครบงาน)
            
งานช้างงานนี้ ปรกติเค้าก็มีกันสองรอบคือเป็น Winter Namm จะจัดกันช่วงเดือนมกราคมของทุกปี และ Summer Namm จะจัดกันช่วงกรกฏาคม ซึ่งงานช่วง Summer จะเล็กกว่าหลายๆ เท่า เพราะฉะนั้นแล้ว บริษัทห้างร้านใหญ่น้อยของบ้านเรา จึงนิยมที่จะเดินทางไปติดต่อกับผู้ผลิต กันในช่วงเดือนมกราคมมากกว่า ที่ผมได้โอกาสมาเขียนเรื่องนี้ให้คุณๆ ได้อ่านกันนี่ก็เพราะว่า ผมก็จับพลัดจับผลูได้ไปกับเค้าด้วยเมื่อ Winter Namm ที่ผ่านมานี้ แล้วก็ได้ประสบการณ์สนุกๆ มันส์ๆ มาฝากคุณๆ กันมากโขอยู่ ทีนี้ ทางผู้ประสานงาน (คุณลี แห่ง The Guitar MAG นี่แหละครับ) เขาก็อยากจะให้ผมเขียนแนะนำสำหรับใครๆ ที่ต้องการอยากจะหยอดกระปุกไปเที่ยวงาน Namm นี้บ้าง จะมี วิธีการแบบไหน อย่างไร จะว่าผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์ว่าไอ่งานนี้ มันต้องติดต่อที่ไหนอย่างไร ก็ได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเดินทางไปงานนี้จากคุณต้น คุณใหญ่จากร้านมิวสิค คอนเซปท์ และ คุณกบ จาก อินเตอร์ มิวสิค ช่วยให้ลายแทงว่าต้องเริ่มต้นติดต่ออะไรยังไงก่อนหลัง

ข้อแรกที่สำคัญมากๆ คุณๆ ที่สนใจอยากไปเที่ยวงานนี้บ้าง จะต้องรีบตีซี้กับร้านค้าไว้ก่อนเลยครับ เนื่องจากงานนี้เขาไม่มีการขายบัตร คุณจะมีบัตรได้ก็ต้องให้ทางตัวแทนจำหน่ายเครื่องดนตรีขอให้ แต่ละร้าน แต่ละห้างก็จะมีโควต้าในการมี Guest ได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นจำนวนหลักสิบ เมื่อคุณการันตีว่าได้บัตรเข้างาน (ทางงานเขาเรียกว่า Badge) แล้ว สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงอีกเป็นเรื่องต่อๆ มา คือปัญหาที่ซุกหัวนอนยามอยู่ในอเมริกา การจองตั๋วเครื่องบิน การเดินทางในขณะที่อยู่ใน USA และเรื่องของ VISA ที่ต้องเข้าประเทศเขา เรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องวางแผนการจัดการให้ถูกต้อง เพื่อความสะดวกของเราเองนั่นหล่ะครับ
            
เรื่องของการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก และการขอ VISA นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวกันกันแบบงงๆ แต่สำคัญมากทีเดียว เดี๋ยวนี้เนื่องจากความต้องการของคนไทยที่ต้องการไปเที่ยว ไปเรียน หรือแอบไปเป็นโรบินฮู๊ดที่ประเทศแห่งเสรีภาพนี้มีมาก  ดังนั้นการขอ VISA จากทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาจึงต้องมีขั้นตอนมากอยู่สักหน่อย ก่อนอื่นเลย ผมจะแนะนำให้คุณจองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักก่อน เพราะหลักฐานการจองจะต้องนำไปยื่นในการขอ VISA ด้วย (เพื่อเป็นการยืนยันว่าคุณมีที่พัก และ มีตั๋วขากลับแน่)

            
งาน Namm Show นี้ จัดขึ้นในเมืองที่มีชื่อว่า Anaheim อยู่ใน Los Angeles (จริงๆแปลว่ากรุงเทพเหมือนกันนะ) สถานที่จัดงานจะเรียกว่า Anaheim Convention Center คุณก็ควรจะหาที่พัก ที่ไม่ควรจะไกลจากละแวกนั้นมากนัก การหาที่พักก็ไม่ยากครับ สามารถเสิร์ชและจองจากอินเตอร์เนทได้เลย ถ้าคุณไม่สะดวกในการชำระ หรือ จองด้วยบัตรเครดิต ผมแนะนำให้ใช้บริการบริษัททัวร์ใกล้บ้านให้เค้าช่วยคุณจอง แต่คุณสามารถหาข้อมูลของโรงแรมเบื้องต้นได้ที่ www.agoda.com  หรืออีกวิธีที่ง่ายกว่า คือถ้าคุณสนิทสนมกับร้านค้าที่คุณสามารถขอ Badge จากเขาได้ ก็รบกวนให้เขาช่วยจองที่พักให้เลยก็น่าจะเป็นวิธีที่ดี จากนั้นเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินก็เป็นเรื่องง่ายแล้วครับ คุณสามารถไปที่บริษัททัวร์ หรือจองผ่านสายการบินที่คุณเล็งๆ ไว้ได้เลย ยังไงก็เช็คนิดนึงว่าในช่วงนั้นๆทางบริษัทไหน มีโปรโมชั่นตั๋วถูกหรือไม่อย่างไร ก็จะได้ประหยัดเงินไว้ไปใช้ในอเมริกาดีกว่าครับ
            
เอาหล่ะ ถึงตรงนี้ ผมก็อนุมานสมมติเอาว่า คุณมีใบจองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบินและ ใบรับ Badge สำหรับเข้างานอยู่ในมือแล้ว ตอนนี้ก็หยิบพาสปอร์ต (ที่มีอายุการใช้งานเกิน 6 เดือน) เอาไว้ แต่อย่าเพิ่งไปสถานทูตให้เสียเวลานะครับ ! อย่างที่ผมเกริ่นไว้แล้วว่า VISA ที่จะเข้าสู่ประเทศอเมริกานั้นมีความต้องการมาก ทางสถานทูตจึงทำการสร้างเวปไซท์นี้ไว้ให้คุณๆ ไปกรอกข้อมูลเพื่อ “จองวันนัดสัมภาษณ์” สำหรับการของทำVISA เข้าประเทศเขา https://thailand.usvisaservices.com/Forms/default.aspx 

คุณๆ จำต้องไปทำการสร้าง Account ก่อนนะครับ และกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ คุณได้เอกสารมาชุดหนึ่งพร้อมทั้งเลือกวันที่สะดวกไปสัมภาษณ์ซึ่งกระบวนการการสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ไปต่อคิวเช็คหลักฐานการยื่น แล้วก็ไปเข้าแถวรอให้ฝรั่งถามเรา (ถ้าเราพูดอังกฤษไม่สะดวกปาก พี่ๆ ฝรั่งเค้าพูดไทยอย่างชัดเลย) คำถามก็จะประมาณว่าจะไปไหน ไปทำอะไร ไปเพื่ออะไร ทำไมต้องไปอะไรแบบนี้ ยังไงก็ตอบเค้าไปตามความจริงก็แล้วกันครับ ตรงจุดนี้ดวงใครดวงมัน โชคดี
            

หลังจากได้ VISA แล้ว มี Badge แล้ว มีที่ซุกหัวนอน และ ตั๋วเครื่องบินแล้ว ที่นี้คุณก็พร้อมแล้วแหละครับ ที่จะมุ่งหน้าไปผจญภัยในงาน Namm Show คุณจะได้ความสนุกความมันส์อย่างไรนั้น? เดี๋ยวไปว่ากันฉบับหน้าครับ

(ตีพิมพ์ในนิตยสาร The GuitarMAG ฉบับเดือนเมษายน 2555)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น